ระบบการแพทย์ทางไกล หรือ Telemedicine กำลังเข้ามาเปลี่ยนโฉมวิธีการรักษาในยุคปัจจุบัน เพราะช่วยให้ผู้ป่วยสามารถพบแพทย์ วินิจฉัยโรค และรับคำปรึกษาได้จากที่บ้าน ผ่านระบบวิดีโอคอลหรือแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ออกแบบมาลดความยุ่งยากในการเดินทาง ลดค่าใช้จ่าย และเพิ่มความสะดวกสบาย โดยเฉพาะสำหรับผู้ป่วยที่มีอาการไม่รุนแรง เช่น โรคหวัดหรือโรคทั่วไป รวมถึงการติดตามอาการเรื้อรังที่ไม่จำเป็นต้องเข้าพบแพทย์ทุกครั้ง
ในบทความนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับ Telemedicine มากขึ้น ว่าคืออะไร มีประโยชน์อย่างไร และเปลี่ยนแนวทางการรักษาคนไข้ยังไงบ้าง
รู้จักกับ Telemedicine นวัตกรรมพลิกโฉมทางการแพทย์
Telemedicine เป็นนวัตกรรมทางการแพทย์แบบใหม่ ที่จะช่วยให้ผู้ป่วยสามารถพบแพทย์ผ่านช่องทางออนไลน์ หรือการรักษาทางไกล ที่ผู้ป่วยไม่ต้องเดินทางเพื่อไปตรวจ ณ สถานพยาบาล ซึ่งรูปแบบการรักษาจะคล้ายกับการเดินทางไปสถานพยาบาล แต่เป็นการดูแลรักษาและวินิจฉัยอาการต่าง ๆ ผ่านรูปแบบ Video conference
โดยการรักษาในรูปแบบ Telemedicine มักจะเหมาะกับคนไข้ที่ป่วยเป็นโรคที่ไม่ร้ายแรง หรือมีอาการที่ไม่จำเป็นต้องรักษาเร่งด่วน ที่ต้องใช้เครื่องมือการแพทย์เฉพาะทาง เช่น โรคไข้หวัด หรืออาการป่วยทั่วไป ที่สามารถรักษาได้ด้วยการจ่ายยาตามอาการ เป็นต้น
ความแตกต่างของ Telemedicine และ Telehealth
สำหรับบทบาทของ Telemedicine อาจทำให้หลายคนเริ่มเกิดความสับสนว่า มีบทบาท หรือความแตกต่างจาก Telehealth ที่เป็นการ ‘ดูแลสุขภาพทางไกล’ อย่างไรบ้าง ซึ่งนวัตกรรมทางการแพทย์ทั้งสองแบบ มีความต่างกัน ดังนี้
Telemedicine | Telehealth |
การให้บริการทางการแพทย์แบบไกล แพทย์กับผู้ป่วยสื่อสารตรวจวินิจฉัย ให้คำปรึกษา ติดตามอาการผ่านช่องทางวิดีโอคอลหรือแพลตฟอร์มคลินิกออนไลน์ | ครอบคลุมการใช้เทคโนโลยีสื่อสารทุกรูปแบบในด้านสุขภาพ เช่น ให้ความรู้ สุขศึกษา การติดตามสุขภาพ การป้องกันโรค และรวมถึง Telemedicine ด้วย |
มุ่งเน้นการรักษา เชิงคลินิก ให้คำปรึกษา วินิจฉัย ตรวจติดตามโรคเรื้อรัง สั่งยา ตีความผลตรวจ | ครอบคลุมทั้งการแพทย์ การส่งเสริมสุขภาพ, การเก็บข้อมูล และการวางแผนระบบ |
วิดีโอคอนเฟอเรนซ์หรือแพลตฟอร์มคลินิกออนไลน์ | แพลตฟอร์มคลาวด์, PHR, ระบบเก็บข้อมูลจากอุปกรณ์สวมใส่, และAI สำหรับคัดกรอง/วิเคราะห์ |
ผู้ป่วยที่ต้องการคำปรึกษาทางการแพทย์ และแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ | ผู้ป่วย ประชาชนทั่วไป บุคลากรทางการแพทย์ และผู้ดูแลระบบสาธารณสุข |

ข้อดีของการ Telemedicine ดูแลคนไข้
การนำระบบ Telemedicine มาปรับใช้ในงานโรงพยาบาล จะช่วยต่อการรักษาคนไข้ รวมถึงเพิ่มความสะดวกต่อการวินิจฉัยของแพทย์ ดังนี้
- ลดโอกาสสัมผัสโรค กรณีที่ผู้ป่วยเป็นโรคที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อ เช่น โควิด 19 หรือไข้หวัดชนิดต่าง ๆ การตรวจวินิจฉัยแบบ Telemedicine จะช่วยลดปฏิสัมพันธ์แบบตัวต่อตัวของแพทย์และคนไข้ สามารถลดโอกาสแพร่กระจายเชื้อได้
- ผู้ป่วยสามารถได้รับคำปรึกษาทันที เพราะการปรึกษาแบบ Telemedicine ค่อนข้างมีความยืดหยุ่นกว่าการรักษาแบบปกติ ผู้ป่วยสามารถได้รับคำวินิจฉัยได้ทันทีผ่านการตรวจแบบออนไลน์ ไม่ต้องเสียเวลารอดำเนินการผ่านแผนกต่าง ๆ
- ประหยัดเวลาค่าใช้จ่ายในการเดินทาง การตรวจแบบ Telemedicine ช่วยให้ผู้ป่วยไม่ต้องเสียเวลาเดินทาง โดยเฉพาะบางคนที่บ้านไกลจากโรงพยาบาล ก็สามารถได้รับการวินิจฉัยโรคได้ ช่วยประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น
- สามารถจัดเก็บข้อมูลรักษาได้เป็นระบบ เพราะการรักษา Telemedicine จะเป็นส่วนหนึ่งของการดูแลคนไข้ในระบบ HIS ที่ช่วยให้การจัดเก็บข้อมูลการรักษาของผู้ป่วยมีความเป็นระบบมากขึ้น ซึ่งแพทย์สามารถค้นหาข้อมูลได้ทุกเมื่อ
- มีบริการส่งยาให้ถึงบ้าน การตรวจแบบ Telemedicine จะช่วยให้ทางเจ้าหน้าที่เภสัชกร สามารถแนะนำเกี่ยวกับการจ่ายยาที่เหมาะสมต่ออาการ และดำเนินการส่งยาให้ถึงบ้าน ทำให้การรักษาสะดวก รวดเร็วมากขึ้น
ทำความรู้จักว่า ระบบ HIS คืออะไร มีประโยชน์ต่อโรงพยาบาลยุคใหม่ยังไงบ้าง
ได้ที่บทความ: ระบบ HIS: หัวใจสำคัญของการบริหารจัดการโรงพยาบาลยุคใหม่
ตัวอย่างการใช้งาน Telemedicine
ในการใช้ Telemedicine มาช่วยในการรักษาคนไข้ จะมีตัวอย่างของการใช้งานในส่วนต่าง ๆ ดังนี้
1. การวินิจฉัยโรคผ่าน Video conference
เป็นการดูแลรักษาผู้ป่วยด้วยการวินิจฉัยสุขภาพ โดยแพทย์จะทำการสอบถามอาการ วินิจฉัยโรค และสอบถามอาการต่าง ๆ ผ่านรูปแบบ Video conference ซึ่งผู้ป่วยสามารถได้รับการตรวจที่มีคุณภาพไม่ต่างจากการเดินทางไปยังโรงพยาบาล
2. เฝ้าระวังและดูแลอาการจากที่บ้าน
สำหรับคนมีอาการป่วยค่อนข้างหนัก ที่ต้องคอยเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง สามารถนำอุปกรณ์ตรวจวัดต่าง ๆ เข้าไปติดตั้งภายในบ้าน เช่น เครื่องวัดความดัน และเครื่องวัดสัญญาณชีพ เป็นต้น หากตรวจพบว่ามีสัญญาณที่ผิดปกติ แพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญจะได้รับการแจ้งเตือน เพื่อทำการส่งตัวรักษาตามความเหมาะสมทันที
3. เป็นแหล่งข้อมูลด้านสุขภาพ
การดูแลคนไข้แบบ Telemedicine นอกจากจะสะดวกต่อการวินิจฉัย และดูแลคนไข้ทางไกลแล้ว ยังเป็นแหล่งรวบรวมความรู้ทางการแพทย์ ช่วยให้ผู้ใช้สืบค้นข้อมูล และขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญได้
4. ช่วยส่งเสริมการเรียนรู้ทางการแพทย์
โดยการรักษาคนไข้ผ่าน Telemedicine นั้น จะมาพร้อมระบบสารสนเทศโรงพยาบาล ที่เก็บข้อมูลการรักษาเป็นระบบ ระเบียบที่ชัดเจน ช่วยให้นักศึกษาแพทย์ หรือพยาบาลสามารถสืบค้นข้อมูลเพื่อนำมาเรียนรู้ และพัฒนาการรักษาให้ดียิ่งขึ้น
สรุป
โดยสรุป Telemedicine ไม่ได้เป็นเพียงแค่การพบแพทย์ผ่านวิดีโอคอลเท่านั้น แต่ยังเป็นเครื่องมือสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพด้านการแพทย์ ลดระยะเวลาการเดินทาง ลดค่าใช้จ่าย และช่วยให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที ยิ่งไปกว่านั้น Telemedicine ยังเป็นรากฐานของการพัฒนาระบบสาธารณสุขในอนาคต ที่จะเชื่อมโยงผู้ป่วย แพทย์ และข้อมูลสุขภาพให้เป็นหนึ่งเดียว เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและสร้างระบบการดูแลสุขภาพที่ยั่งยืนมากยิ่งขึ้น
หากโรงพยาบาลไหนต้องการนวัตกรรมไปช่วยยกระดับการดูแลคนไข้ ให้ทันสมัย มีประสิทธิภาพ ขอแนะนำ HA.OS ระบบสารสนเทศโรงพยาบาล หรือ HIS ที่ครอบคลุมทุกกระบวนการรักษาคนไข้ ตั้งแต่ การดูแลวินิจฉัย, การจ่ายยา, การเบิกจ่ายยา และการติดตามผลการรักษา รวมถึงการรักษาแบบ Telemedicine เพื่อให้การรักษาผู้ป่วยมีความสะดวกและทันสมัยมากยิ่งขึ้น
