ในยุคดิจิทัลที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญต่อทุกอุตสาหกรรม ระบบ HIS (Hospital Information System) จึงกลายเป็นหัวใจสำคัญของโรงพยาบาลยุคใหม่ เพราะช่วยยกระดับการทำงานของแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ให้มีความรวดเร็ว แม่นยำ และปลอดภัยยิ่งขึ้น ระบบ HIS ไม่เพียงแต่ช่วยจัดการข้อมูลผู้ป่วยอย่างเป็นระบบ แต่ยังเชื่อมโยงทุกส่วนงานของโรงพยาบาลให้ทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ ลดความผิดพลาด และสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ป่วย
ในบทความนี้เราจะมาแนะนำถึง 7 องค์ประกอบของระบบ HIS ที่ทำให้การทำงานในโรงพยาบาลมีประสิทธิภาพ จะมีอะไรบ้างไปติดตามอ่านได้เลยครับ
ระบบ HIS ทำงานอย่างไร
สำหรับการทำงานของระบบ HIS จะเป็นการนำเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาปรับใช้ในงานโรงพยาบาล ให้เกิดความสะดวก รวดเร็ว มีประสิทธิภาพ ซึ่งรูปแบบการทำงานที่โดดเด่นของระบบ HIS คือข้อมูลที่มีความเป็นระบบชัดเจน เพื่อช่วยให้แพทย์หรือเจ้าหน้าที่สามารถตัดสินใจ และทำงานได้อย่างแม่นยำมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ระบบ HIS ยังช่วยทำหน้าที่เชื่อมโยงข้อมูลภายในโรงพยาบาล เพื่อให้เจ้าหน้าที่ส่วนต่าง ๆ สามารถทำงานร่วมกันได้ เพื่อลกระยะเวลาในการทำงาน เพิ่มความถูกต้อง และปรับปรุงคุณภาพในการให้บริการของโรงพยาบาลให้น่าประทับใจต่อผู้ป่วยที่มาใช้บริการมากขึ้น
สำหรับเทคโนโลยีที่มีบทบาทต่อระบบ HIS มีดังนี้
- Hardware คือเครื่องมือต่าง ๆ ที่ใช้ในการทำงานโรงพยาบาล เช่น คอมพิวเตอร์, Note Book, สมาร์ทโฟน และระบบเครือข่าย เป็นต้น
- Software คือระบบที่ใช้ในคอมพิวเตอร์ ไม่ว่าจะเป็นโปรแกรม หรือแอปพลิเคชันต่าง ๆ ที่ช่วยให้การทำงานสะดวก รวดเร็วมากขึ้น
- Peopleware คือบุคลากรที่มีส่วนรับผิดชอบการทำงานของระบบ เช่น นักวิเคราะห์, คนเขียนโค้ด หรือคนพัฒนาระบบ เป็นต้น
- Data คือชุดข้อมูลต่าง ๆ ที่โรงพยาบาลดูแลรักษา เช่น ข้อมูลเวชระเบียนคนไข้, ข้อมูลยา และข้อมูลจากห้องปฏิบัติการ เป็นต้น
ทำความรู้จักว่า ระบบ HIS คืออะไร มีประโยชน์ต่อโรงพยาบาลยุคใหม่ยังไงบ้าง
ได้ที่บทความ: ระบบ HIS: หัวใจสำคัญของการบริหารจัดการโรงพยาบาลยุคใหม่

7 องค์ประกอบสำคัญของระบบ HIS
การทำงานของระบบ HIS นั้น ประกอบไปด้วยองค์ประกอบเทคโนโลยีสารสนเทศสำหรับแพทย์และโรงพยาบาล ในด้านต่าง ๆ ดังนี้
1. บันทึกสุขภาพอิเล็กทรอนิกส์ (EHR)
ระบบบันทึกสุขภาพอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Health Records: EHR) โดยจะมีความหมายเดียวกับ ระบบเวชระเบียนอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Medical Record: EMR) ซึ่งจะทำหน้าที่บันทึกประวัติการรักษาของผู้ป่วยในรูปแบบดิจิทัล ช่วยให้ง่ายต่อการค้นหา หรือตรวจสอบประวัติการรักษาของผู้ป่วย
โดยข้อมูล EHR จะประกอบไปด้วย ข้อมูลสุขภาพ, ประวัติการรักษา, ผลการตรวจ และประวัติการแพ้ยา ซึ่งประโยชน์ของการเปลี่ยนมาใช้ EHR คือการช่วยลดการใช้กระดาษในการบันทึกข้อมูล ลดโอกาสสูญหาย หรือเสียหาย ทำให้แพทย์ผู้รักษาสามารถตรวจสอบประวัติคนไข้โดยละเอียดได้
2. การแลกเปลี่ยนข้อมูลสุขภาพ (HIE)
การแลกเปลี่ยนข้อมูลสุขภาพ (Hospital Information Exchange: HIE) เป็นระบบสำหรับแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านสุขภาพของผู้ป่วย ระหว่างแต่ละสถานพยาบาล หรือผู้ให้บริการด้านสุขภาพรายอื่น ๆในกรณีที่คนไข้เปลี่ยนโรงพยาบาล ทำให้เกิดการรักษาที่ต่อเนื่อง รวมถึงนำข้อมูลไปใช้อ้างอิงเชิงสถิติในอนาคต
แต่การนำระบบ HIE ก็ยังมีความท้าทายในเรื่องของความปลอดภัยในระหว่างส่งต่อข้อมูล เนื่องจากข้อมูลการรักษาของคนไข้ถือว่าเป็นข้อมูลละเอียดอ่อน และเกี่ยวข้องกับกฎหมาย PDPA ดังนั้นทางสถานพยาบาลควรให้ความสำคัญต่อความปลอดภัย เช่น การเข้ารหัสข้อมูล, การจำกัดการเข้าถึงข้อมูล และการสำรองข้อมูล เป็นต้น
3. ระบบสนับสนุนการตัดสินใจทางคลินิก (CDSS)
ระบบสนับสนุนการตัดสินใจทางคลินิก Clinical Decision Support System (CDSS) เป็นระบบที่จะทำหน้าที่ในส่วนของการวินิจฉัยอาการเบื้องต้น เพื่อช่วยให้คำแนะนำต่อแพทย์ และช่วยต่อการตัดสินใจต่าง ๆ ในการรักษา ได้อย่างแม่นยำมากขึ้น ซึ่งบทบาทของ CDSS จะมีหน้าที่ ดังนี้
- การวินิจฉัยโรค โดยระบบ CDSS จะช่วยแพทย์ในการวิเคราะห์ผลการตรวจ และวินิจฉัยโรคเบื้องต้นของผู้ป่วย ช่วยให้แพทย์วางแนวทางการรักษาได้มีประสิทธิภาพ
- การสั่งยา ระบบ CDSS จะช่วยในการตรวจสอบใบสั่งยาของแพทย์ ถึงปริมาณยาที่เหมาะสม
- คำแนะนำการติดตามผลการรักษา สำหรับผู้ป่วยที่ทำการรักษามาระยะหนึ่งแล้ว ระบบ CDSS จะช่วยเปรียบเทียบประวัติการรักษาผู้ป่วย ถึงผลลัพธ์ และแนวโน้มของอาการ เพื่อให้แพทย์สามารถติดตามอาการ และวางแผนการรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
4. พอร์ทัลผู้ป่วย
ภายในระบบ HIS จะมีพอร์ทัลผู้ป่วยจะเป็นระบบที่อำนวยความสะดวกต่อการเข้าถึงบริการสุขภาพของตัวผู้ป่วยเอง ผ่านแอปพลิเคชัน หรือเว็บไซต์ของโรงพยาบาล ได้แบบตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งตัวผู้ป่วยจะสามารถตรวจสอบผลตรวจ ตรวจสอบตารางนัดหมายครั้งต่อไป รวมถึงการเช็กคิวเข้ารับการตรวจแบบเรียลไทม์ เป็นต้น
นอกจากนี้พอร์ทัลผู้ป่วยยังช่วยให้เกิดการสื่อสารระหว่างคนไข้และแพทย์อย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้ป่วยสามารถขอให้แพทย์จ่ายยาเพิ่มเติมหรือจองนัดแพทย์ล่วงหน้า โดยที่ไม่ต้องเดินทางมาโรงพยาบาล
5. การติดตามผู้ป่วยระยะไกล (RPM)
การติดตามผู้ป่วยทางไกล (Remote Patient Monitoring: RPM) เป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมใหม่ของการดูแลผู้ป่วย แบบนอกสถานที่ ซึ่งเหมาะแก่ผู้ป่วยที่มีอายุมาก หรือผู้ป่วยติดเตียง ที่ไม่สะดวกในการเดินทางบ่อย ๆ โดยแพทย์สามารถทำการดูแล และวินิจฉัยอาการในรูปแบบออนไลน์ได้
นอกจากนี้การติดตามผู้ป่วยระยะไกล ยังมีระบบ Telehealth ที่จะใช้เซนเซอร์ทางการแพทย์ในการตรวจแบบชีวมิติ เช่น วัดความดัน, อัตราการเต้นของหัวใจ และระดับออกซิเจน เป็นต้น
6. ระบบการเงินและค่ารักษาพยาบาล
เป็นระบบสำหรับช่วยต่อการจัดการเรื่องการเงินที่ซับซ้อนของโรงพยาบาล เนื่องจากค่ารักษาของคนไข้แต่ละคนนั้นไม่เท่ากัน มีการใช้สวัสดิการ และสิทธิ์การรักษาต่าง ๆ เช่น ประกันสังคม และประกันสุขภาพ เป็นต้น
ระบบ HIS นั้น จะช่วยในตรวจสอบสิทธิ์เบื้องต้น เพื่อช่วยต่อการจัดการระบบการเงินโรงพยาบาลให้มีความรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ รวมถึงการออกใบเสร็จ และคำนวณค่าใช้จ่าย ป้องกันความผิดพลาด และทำให้ง่ายต่อการตรวจสอบย้อนหลัง
7. ระบบบริหารเวชภัณฑ์และยา
อีกหนึ่งคุณสมบัติของระบบ HIS คือระบบบริหารเวชภัณฑ์และยา ซึ่งจะทำหน้าที่ในส่วนของการเบิกจ่ายยาแบบเรียลไทม์ เพื่อให้แพทย์ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง สามารถตรวจสอบจำนวนคงคลังได้ตลอดเวลา ช่วยให้การบริหารการคลังทำได้แม่นยำ
นอกจากนี้ระบบ HIS ยังช่วยวิเคราะห์ประวัติการรักษา และการแพ้ยาของผู้ป่วย เพื่อเลือกประเภทยาที่เหมาะสม ช่วยลดความผิดพลาดในการจ่ายยาซ้ำ หรือจ่ายยาที่ผิดพลาด ได้อีกด้วย
สรุป
จากองค์ประกอบต่าง ๆ ที่กล่าวมา จะเห็นได้ว่า ระบบ HIS เป็นมากกว่าซอฟต์แวร์ แต่คือโครงสร้างพื้นฐานสำคัญที่ช่วยให้โรงพยาบาลก้าวสู่การแพทย์ดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ ทั้งในด้านการจัดเก็บข้อมูลสุขภาพ, การสนับสนุนการตัดสินใจ, การเงิน, การบริหารยา และการดูแลผู้ป่วยทางไกล เมื่อโรงพยาบาลนำระบบ HIS มาปรับใช้ ก็จะช่วยยกระดับคุณภาพการรักษา เพิ่มความน่าเชื่อถือ และสร้างความพึงพอใจให้กับผู้ป่วยได้ในระยะยาว
หากโรงพยาบาลไหนที่ต้องการนำระบบ HIS ไปช่วยยกระดับการทำงานในองค์กร ขอแนะนำ HA.OS ที่เป็นบริการระบบสารสนเทศสำหรับโรงพยาบาลแบบครบ จบ ไม่ว่าจะเป็น ระบบเวชระเบียน, ชำระเงินและเรียกเก็บกับภาครัฐ, ระบบนัดหมายคนไข้ และระบบสนับสนุนและบริการอื่น ๆ พร้อมพาโรงพยาบาลของคุณพัฒนาอย่างมีคุณภาพ
