4 เทรนด์ Digital Healthcare 2025 ดูแลผู้ป่วยยังไง ในยุคดิจิท้ล

ในยุคที่เทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามามีบทบาทในทุกด้านของชีวิตประจำวัน “Digital Healthcare” ได้กลายเป็นหัวใจสำคัญที่พลิกโฉมวงการสาธารณสุขครั้งใหญ่ การดูแลผู้ป่วยไม่จำกัดอยู่แค่ในโรงพยาบาลอีกต่อไป แต่ขยายไปสู่การดูแลเชิงรุก การจัดการข้อมูลที่แม่นยำ และการสร้างประสบการณ์ที่ตอบโจทย์ทั้งผู้ป่วยและบุคลากรทางการแพทย์ 

ในบทความนี้เราจะมาพูดถึง 4 เทรนด์ Digital Healthcare ที่น่าสนใจในปี 2025 นี้ ว่ามีอะไรที่น่าสนใจ และช่วยพลิกโฉมวงการสาธารณสุขอย่างไรบ้าง


Digital Healthcare คืออะไร ช่วยยกระดับการดูแลผู้ป่วยยังไง

Digital Healthcare คือ การนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาปรับใช้ในอุตสาหกรรมการแพทย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโรงพยาบาล โดยจะเป็นการนำนวัตกรรมที่ทันสมัยมาปรับใช้ในการให้บริการผู้ป่วย เพื่อให้การรักษาสามารถเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ตั้งแต่การวินิจฉัยโรค ไปจนถึงการติดตามผลการรักษา

นอกจากนี้บทบาทของ Digital Healthcare ยังรวมถึงการจัดการข้อมูลสารสนเทศต่าง ๆ ในการรักษา ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลเวชระเบียนของผู้ป่วย, ข้อมูลการรักษา และข้อมูลการนัดหมายจากแพทย์ ซึ้ง Digital Healthcare จะช่วยให้การจัดการข้อมูลเกิดความปลอดภัย และการให้บริการด้านสาธารณสุขที่สะดวก ทันสมัยมากกว่าเดิม


ส่องเทรนด์ Digital Healthcare 2025

การเข้ามามีบทบาทมากขึ้นของเทคโนโลยีดิจิทัล ทำให้พลิกโฉมวงการสาธารณสุขในด้านต่าง ๆ โดยเทรนด์ Digital Healthcare ในปี 2025 ที่น่าสนใจ มีดังนี้ 

1. สร้างประสบการณ์ที่ดีต่อคนไข้ด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ

ในปัจจุบันโรงพยาบาลหลายแห่งได้ให้ความสำคัญในเรื่องของการให้บริการที่มีคุณภาพ แก้ปัญหา การดำเนินการที่ล้าสมัย และล่าช้า รวมถึงกระบวนการรักษาที่มีความผิดพลาด ด้วยการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมต่าง ๆ มาปรับใช้ ซึ่งจะเพิ่มความรวดเร็วในการให้บริการ และเพิ่มความแม่นยำในการดูแลลูกค้า ยกตัวอย่างเช่น การสร้างแอปพลิเคชันโรงพยาบาล หรือการนำระบบ HIS มาใช้ในการทำงาน 

หนึ่งในสิ่งที่เทคโนโลยีเข้ามาช่วยสร้างประสบการณ์ที่ดีต่อคนไข้ คือระบบจัดการรอคิว ที่หลายโรงพยาบาลได้มีการปรับปรุงให้เป็นการแจ้งระบบรอคิวผ่านแอปพลิเคชัน ที่ผู้ป่วยสามารถเช็กคิวที่อัปเดตได้ตลอดเวลา ไม่จำเป็นต้องนั่งรอหน้าห้องตรวจเสมอไป นอกจากนี้ยังมีระบบนัดหมาย และการเช็กประวัติการรักษาที่ผู้ป่วยสามารถตรวจสอบผ่านแอปพลิเคชันได้ทุกเมื่อ

ทำความเข้าใจถึงความสำคัญและบทบาทต่าง ๆ ของ ระบบ HIS ต่อโรงพยาบาล
ได้ที่บทความ: ระบบ HIS สำคัญยังไง? เมื่อเทคโนโลยีช่วยให้โรงพยาบาลทำงานได้ลื่นไหล

2. เพิ่มประสิทธิภาพด้วย AI และ Big Data

ทุกวันนี้ AI หรือปัญญาประดิษฐ์ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในงานด้านสาธารณสุข โดยเทคโนโลยี AI จะเข้ามาช่วยต่อการวิเคราะห์ข้อมูลหรือวินิจฉัยอาการเบื้องต้นของคนไข้ ซึ่งจะช่วยต่อการส่งต่อผู้ป่วยไปยังแผนกต่าง ๆ ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง รวมถึงการสร้างระบบ Automation ในการทำงาน ลดภาระเจ้าหน้าที่ในการทำงานซ้ำซ้อน เพิ่มความถูกต้องในการทำงาน

นอกจากนี้โรงพยาบาลเองก็ต้องให้ความสำคัญต่อข้อมูลของคนไข้ และมีระบบจัดการข้อมูลที่เป็นระเบียบ และมีความปลอดภัย ด้วย Big Data ที่จะช่วยจัดการข้อมูลของคนไข้ที่มีจำนวนมาก เช่น ข้อมูลการประกันภัยและการเรียกเก็บเงิน,   ข้อมูลที่ผู้ป่วยสร้างขึ้นจากแอปและอุปกรณ์สวมใส่ ให้มีประสิทธิภาพ เจ้าหน้าที่สามารถเรียกดู หรือแก้ไขข้อมูลได้ทุกเมื่อ

จะเห็นได้ว่าการนำเทคโนโลยี AI และ Bigdata มาทำงานร่วมกัน จะช่วยยกระดับคุณภาพของงานสาธารณสุข ทั้งการจัดการข้อมูล และนำข้อมูลมาวิเคราะห์ เพื่อการรักษาที่เกิดประสิทธิภาพสูงสุด 

3. ดูแลทางไกลด้วย Remote Patient Monitoring (RPM)

นับตั้งแต่เกิดโรคระบาดโควิด-19 ที่ได้พลิกโฉมการใช้ชีวิตผู้คนให้อยู่ในรูปแบบออนไลน์ ด้านสาธารณสุขหรือการแพทย์เอง ก็มีการปรับตัวไม่แพ้กัน ด้วยระบบการดูแลคนไข้แบบ Remote Patient Monitoring (RPM) ซึ่งจะเป็นการดูแล และติดตามอาการผู้ป่วยระยะไกล ด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล 

ข้อดีของระบบ RPM คือการช่วยให้ผู้ป่วยที่ไม่สามารถเคลื่อนไหว หรือออกจากบ้านบ่อย ๆ ได้ ได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่อง โดยระบบจะทำการตรวจวัด และจัดเก็บข้อมูลการรักษา เพื่อให้แพทย์หรือพยาบาลสามารถวินิจฉัยโรคและดูแลผู้ป่วยได้อย่างแม่นยำ 

4. เพิ่มความปลอดภัยและจัดการกับข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพ

ในยุคของ Digital Healthcare ที่ข้อมูลทุกอย่างถูกย้ายไปอยู่ในรูปแบบดิจิทัล ความปลอดภัยและระบบจัดการข้อมูลถือว่าเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพราะข้อมูลของการรักษาคนไข้นั้น จะประกอบไปด้วย ข้อมูลส่วนตัวคนไข้, ข้อมูลการรักษา และข้อมูลต่าง ๆ ของโรงพยาบาล เป็นต้น ซึ่งข้อมูลที่โรงพยาบาลควรให้ใส่ใจเรื่องความปลอดภัย และการจัดการข้อมูล มีดังนี้

  • การจัดการข้อมูลคนไข้ที่มีคุณภาพ โรงพยาบาลควรจะต้องจัดการกับข้อมูลของคนไข้ให้มีความเป็นระเบียบ เพื่อสะดวกต่อการค้นหา หรือจัดการกับข้อมูล และต้องมีการจำกัดสิทธิการเข้าถึง เพื่อความปลอดภัยของข้อมูล
  • เชื่อมต่อข้อมูลการรักษากับระบบเบิกจ่าย เนื่องจากคนไข้ที่มารักษาแต่ละรายนั้น ต่างมีการใช้สวัสดิการการรักษาที่ต่างกัน  เช่น ประกันสังคม, ประกันกลุ่มของบริษัท หรือสิทธิบัตรทอง การนำระบบ HIS มาปรับใช้ จะช่วยให้ง่ายต่อการตรวจสอบสิทธิ์การรักษาของผู้ป่วย 
  • แลกเปลี่ยนข้อมูลกับสาธารณสุข ข้อมูลการรักษาคนไข้ที่โรงพยาบาลจัดเก็บนั้น นอกจากการรักษาคนไข้ให้มีประสิทธิภาพแล้ว ยังสามารถที่จะนำไปใช้ในการวิจัย หรือเก็บข้อมูลสถิติด้านสาธารณสุขได้ เพื่อนำมาปรับปรุง และพัฒนาความรู้ทางการแพทย์ต่อไปในอนาคต

สรุป

Digital Healthcare ไม่เพียงแค่ยกระดับประสิทธิภาพของการรักษา แต่ยังสร้างคุณค่าที่ครอบคลุมทั้งผู้ป่วย แพทย์ และระบบสาธารณสุขโดยรวม ตั้งแต่การมอบประสบการณ์ที่ดีให้ผู้ป่วย ลดความผิดพลาดในการทำงาน เสริมความรวดเร็วในการบริการ ไปจนถึงการใช้ข้อมูลเชิงลึกเพื่อพัฒนาการแพทย์ในอนาคต 

สำหรับโรงพยาบาลไหน ที่ต้องการนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้าไปปรับใช้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และปรับตัวเข้ากับเทรนด์ Digital Healthcare ขอแนะนำ HA.OS ที่มีบริการระบบ HIS สำหรับโรงพยาบาล ไม่ว่าจะเป็น ระบบจัดการข้อมูลคนไข้, ระบบตรวจคนไข้ระยะไกล รวมถึงระบบติดตามผล และนัดหมาย เพื่อเปลี่ยนโรงพยาบาลของคุณด้วยบริการที่ทันสมัย และมีคุณภาพยิ่งขึ้น

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *